เป็นเรื่องปกติหลัง ฟุตบอลโลก ผ่านพ้นไปในแต่ละครั้ง ที่จะมีนักเตะสร้างชื่อเสียงขึ้นมาจากผลงานอันโดดเด่นในทัวร์นาเมนต์ เราลองมาไล่เรียงดูกันว่ามี(ว่าที่)สตาร์คนไหนที่อาจจะได้กลายเป็นข่าวพาดหัวในหน้าหนังสือพิมพ์ถึงการย้ายไปร่วมทีมดังๆสำหรับฤดูกาล 2018/19 ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนหน้า
อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน (รัสเซีย)
แข้งดาวรุ่งวัย 22 ปี แจ้งเกิดขึ้นมาจากทีมชุดเยาวชนของ ซีเอสเคเอ มอสโก ตั้งปี 2014 ก่อนจะกลายมาเป็นขุมกำลังหลักให้กับทีมชุดใหญ่ตลอด 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจนับตั้งแต่การลงเล่นในนัดเปิดสนามให้กับทีมเจ้าภาพที่ไล่ถล่ม ซาอุดิอาระเบีย เละเทะ 5-0 ด้วยการยิง 1 จ่าย 2
นั่นยังเป็นสถิติอันยอดเยี่ยมของการมีส่วนร่วมในการทำประตูของนักเตะทีมหมีขาวนับตั้งแต่ที่ โอเล็ก ซาเลนโก้ เคยฝากผลงานเอาไว้จาก 5 ประตูบวก 1 แอสซิสต์ในการพบกับ แคเมอรูน เมื่อตอน เวิลด์ คัพ 1994 และนั่นก็เพียงพอที่จะทำให้เจ้าตัวตกเป็นข่าวกับ อาร์เซน่อล, ยูเวนตุส และโดยเฉพาะกับ เชลซี
ฮาคิม ซีเยค (โมร็อกโก)
เพลย์เมคเกอร์ร่างบางจาก อาแจ็กซ์ ทำผลงานได้โดดเด่นท่ามกลางความโชคร้ายของทีมในรอบแบ่งกลุ่ม ทั้งจากการพ่ายแพ้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บให้กับ อิหร่าน ต่อด้วยการเสียประตูตั้งแต่หัววันกับ โปรตุเกส ก่อนจะมาเจ็บซ้ำแล้วซ้ำอีกกับการถูกปฏิเสธลูกตีเสมอในนาทีที่ 91 กับ สเปน
เขาเป็นเจ้าของสถิติสูงสุดของทีมในการสร้างโอกาสได้ 6 ครั้งตลอดทัวร์นาเมนต์ และแม้ มิดฟิลด์วัย 25 ปี จะไม่เคยค้าแข้งอยู่นอกเหนือจากใน เอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ แต่อาจมีจุดเปลี่ยนบางอย่างเกิดขึ้นในช่วงหน้าร้อนนี้หลังเจ้าตัวมีข่าวกับ ลิเวอร์พูล และ โรม่า
เบนฌาแม็ง ปาวาร์ (สตุ๊ตการ์ท)
ชื่อของ แบ็คขวาวัย 22 ปี ผู้ที่ยังสามารถลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ครวมถึงมิดฟิลด์ตัวกลาง กลายเป็นที่กล่าวขวัญขึ้นมาทันทีหลังการจบสกอร์อันสวยสดจากลูกวอลเลย์ด้วยเท้าขวาในเกมส์ที่ ฝรั่งเศส เฉือนเอาชนะ อาร์เจนติน่า ไปแบบสุดมันส์ 4-3
จากนักเตะโนเนมที่เคยลงเล่นอยู่ใน บุนเดสลีกา 2 เมื่อฤดูกาล 2016-17 ก่อนจะเริ่มต้นติดทีมชาติครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว จนในที่สุดก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นตัวจริงในทีมตราไก่ชุดแชมป์โลก จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาจะถูกจับโยงเข้ากับ บาเยิร์น มิวนิค, แมนฯ ซิตี้, อาร์เซน่อล และ สเปอร์ส
อาห์เหม็ด มูซ่า (เลสเตอร์ ซิตี้)
ด้วยลูกยิงประตูสุดสวยในเกมส์กับ ไอซ์แลนด์ ของ หัวหอกตัวจี๊ดชาวไนจีเรีย ก็กลายเป็นการจุดประความหวังให้กับ อาร์เจนติน่า ที่จะกระเสือกกระสนเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ และยังทำให้เขากลายเป็นดาวยิงสูงสุดในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายของนักเตะจากกาฬทวีป (4 ประตู) ถัดจาก อซาโมอาห์ กียาน (6) และ โรเจอร์ มิลล่า (5)
ดาวเตะวัย 25 ปี ใช้เวลาในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลที่ผ่านมากับ ซีเอสเคเอ มอสโก ต้นสังกัดเก่าด้วยสัญญายืมตัว แต่หลังจากฉายแววโดดเด่นได้ที่ รัสเซีย ก็ทำให้เขาหวังว่าจะได้รับโอกาสอย่างต่อเนื่องจากต้นสังกัดหรือได้ย้ายไปชุบชีวิตใหม่กับ กาลาตาซาราย หรือ อัล นาสเซอร์ ที่มีข่าวพัวพันอยู่ในขณะนี้
เออร์วิ่ง โลซาโน่ (เม็กซิโก)
ปีกจอมเผาวัย 22 ปี โชว์ผลงานระดับ 5 ดาวในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเกมส์นัดเปิดสนามกับ เยอรมัน จากประตูชัยดับทีมแชมป์เก่า รวมถึงจังหวะกระชากเข้าไปถวายพานให้กับ “ชิชาริโต้” ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ในนัดที่พวกเขาเฉือนเอาชนะ เกาหลีใต้ มาได้หวุดหวิด
ด้วยการหาจังหวะสับไกได้ถึง 13 ครั้ง ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดของบรรดานักเตะเม็กซิกันในรายการนี้ และยังสร้างโอกาสได้มากถึง 11 ครั้ง จึงทำให้ดาวซัลโวสูงสุดในซีซั่นที่แล้วของ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ตกเป็นเป้าหมายของทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด, สเปอร์ส, เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า
โช ฮยอน-วู (เกาหลีใต้)
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเบื้องหลังความสำเร็จของ ทีมโสมขาว ในการเบียดแย่ง เยอรมัน เพื่อคว้าโควต้าเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายไปครอง มาจากความเหนียวหนึบของ ผู้รักษาประตูวัย 26 ปี จาก แดกู เอฟซี ที่ช่วยเซฟไว้ได้ถึง 6 ครั้งพร้อมกับการรักษาคลีนชีตได้ในนัดชี้ชะตา โดยมีเพียงแค่ กิเยร์โม่ โอชัว (17) จาก เม็กซิโก ที่ทำสถิติป้องกันประตูได้มากกว่าเขา (12)
ก่อนหน้านี้ นายด่านโอปป้า เคยเผยถึงความใฝ่ฝันของเขาในการเข้ามาทำหน้าที่เฝ้าปากประตูให้กับทีมใน พรีเมียร์ลีก จนทำให้เคยมีข่าวกับ ลิเวอร์พูล แต่การย้ายเข้ามาเล่นอยู่ใน ยุโรป อาจกลายเป็นเรื่องซับซ้อนของเจ้าตัวเนื่องจากปัญหาในการเกณฑ์ทหาร
แฮร์รี่ แม็คไกวร์ (อังกฤษ)
หากจะเลือกจิ้มไปยัง ขุนพลทีมสิงโตคำราม ที่สามารถเรียกศรัทธาแฟนๆในประเทศกลับมาได้อย่างเต็มภาคภูมิ หนึ่งในคนที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้น ปราการหลังร่างยักษ์ จาก เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เป็นผู้เบิกสกอร์แรกในการพบกับ สวีเดน ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย รวมถึงการโหม่งใส่พานในจังหวะได้ประตูชัยจาก แฮร์รี่ เคน ในนัดเปิดสนามกับ ตูนิเซีย
จึงไม่น่าแปลกใจที่ กองหลังวัย 25 ปี ผู้มีสถิติการดวลลูกกลางอากาศดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ร่วมของรายการ จะกลายเป็นแข้งเนื้อหอมที่มีข่าวว่ากำลังถูกตามรุมจีบจากทั้ง สเปอร์ส, แมนฯ ยูไนเต็ด, แมนฯ ซิตี้, ลิเวอร์พูล และ เชลซี
มุสซ่า วาเก (เซเนกัล)
แบ็คขวาดาวรุ่งวัย 19 ปี พึ่งเปิดตัวการเป็นนักเตะอาชีพกับ เคเอเอส ยูเปน ทีมรองบ๊วยจาก จูปิแลร์ โปรลีก เบลเยียม ในซีซั่นที่แล้ว แต่กลับสามารถโชว์ฟอร์มที่ รัสเซีย ได้อย่างแข็งแกร่ง แถมยังมีรายชื่ออยู่บนสกอร์บอร์ดจากจังหวะสอดขึ้นมาซัดด้วยขวาเต็มๆในเกมส์ที่เสมอกับ ญี่ปุ่น 2-2
จากประตูแรกในนามทีมชาติก็ทำให้เขากลายมาเป็นนักเตะแอฟริกันอายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูได้ในรายการ เวิลด์ คัพ และล่าสุด ฟูลแบ็ควัยทีน ก็ยังตกเป็นข่าวกับ นาโปลี และ บาร์เซโลน่า
เยอร์รี่ มิน่า (โคลอมเบีย)
เป็นที่คาดการณ์กันว่า กองหลังวัย 23 ปี น่าจะไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ในฤดูกาลที่จะถึงนี้ ทั้งๆที่เจ้าตัวทำผลงานได้เข้าตาที่ รัสเซีย แถมยังทำได้ 3 ประตูจากลูกโหม่งทั้งสิ้น ซึ่งรวมไปถึงจังหวะโขกตีเสมอ อังกฤษ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากเกมส์รอบ 16 ทีมสุดท้าย
ซึ่งก็ทำให้เซ็นเตอร์แบ็คเจ้าของส่วนสูง 194 ซม. กลายเป็นผู้เล่นแผงหลังที่ยิงประตูได้มากที่สุดใน 1 ทัวร์นาเมนต์ของฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย และยังทำให้เขากลายเป็นข่าวกับ เอฟเวอร์ตัน, เวสต์แฮม, สเปอร์ส และ ลิเวอร์พูล ในขณะนี้
โดมากอย วิด้า (โครเอเชีย)
หนึ่งในขุนพลตัวหลักของ ทีมตราหมากรุก ที่สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการพาทีมก้าวขึ้นไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศ สามารถทำได้ 1ประตูในรายการนี้จากลูกโขกขึ้นนำ รัสเซีย ไปก่อน 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษของรอบ 8 ทีมสุดท้าย ก่อนจะพกพาหัวใจเพชรมาทำหน้าที่ในการดวลจุดโทษได้อย่างหมดจดหลังจบ 120 นาที
แม้ ปราการหลังทรงหางม้า จะพึ่งย้ายจาก ดินาโม เคียฟ มาอยู่กับ เบซิคตัส เมื่อช่วงต้นปีด้วยสัญญา 4 ปีครึ่ง หากแต่ด้วยฟอร์มอันแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา ก็ทำให้เขาตกไปเป็นเป้าหมายของ เอฟเวอร์ตัน, เวสต์แฮม, เลสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล